ครบรอบ 1 ปี การจากไปของ “บุ้ง เนติพร” ความยุติธรรมไปถึงไหนแล้ว?

ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เป็นเวลาหนึ่งปีจากการจากไปของ “บุ้ง” เนติพร เสน่ห์สังคม หรือที่รู้จักกันในนาม “บุ้ง ทะลุวัง” นักกิจกรรมประชาธิปไตยที่เสียชีวิตในระหว่างถูกขุมขังที่ทัณฑ์สถานหญิงกลางในวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 โดยบุ้งถูกคุมขังตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2567 จากการที่ศาลอาญามีคำสั่งถอนประกันคดีอาญามาตรา 112 กรณีทำโพลเรื่องขบวนเสด็จ

โดยหลังจากเข้าไปในเรือนจำเพียงสองวัน บุ้งได้ประกาศอดอาหารประท้วงจากความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น โดยมีข้อเรียกร้องหลักในสองประการได้แก่การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และต้องไม่มีคนเห็นต่างทางการเมืองถูกคุมขังอีก นับเป็นการต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมอย่างกล้าหาญกระทั่งวาระสุดท้ายในชีวิตของเธอ

แม้ว่าบุ้งจะอดอาหารมาอย่างยาวนาน แต่การเสียชีวิตของบุ้งนั้นเป็นไปอย่างไม่ปกติ จากการชันสูตรและสอบสวนได้พบว่าการเสียชีวิตของบุ้งมีความเกี่ยวข้องกับความบกพร่องของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตั้งแต่การใส่ท่อช่วยหายใจในหลอดอาหาร การนำตัวส่งมารักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ฯ ช้าจนเกินไป รวมถึงการปกปิดและไม่ให้ความร่วมมือในการเปิดเผยรายงานการรักษา เหล่านี้ได้บ่งบอกถึงความบกพร่องถึงการทำงานของราชทัณฑ์

หลังจากที่บุ้งเสียชีวิตนั้น ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 กรมราชทัณฑ์ สังกัดกระทรวงยุติธรรมได้แถลงว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของบุ้ง อย่างไรก็ตาม กลับไม่พบการทำงานของคณะกรรมการดังกล่าว และแม้จนถึงเวลาที่กระบวนการไต่สวนการเสียชีวิตตามกฎหมายจะเริ่มอย่างเป็นทางการ ข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของบุ้งก็ยังคลุมเครือ ราชทัณฑ์ รวมถึงกระทรวงยุติธรรมไม่ได้มีการสรุปผลว่าบุ้งเสียชีวิตมาจากสาเหตุใดภายหลังจากการแถลงข่าวในครั้งนั้น ซึ่งข้อเท็จจริงเหล่านี้จะส่งผลต่อรูปคดีในทางกฎหมายได้ 

ในกระบวนการทางกฎหมาย กรณีการเสียชีวิตของบุ้งนั้นคือการตายในระหว่างการคุมของเจ้าหน้าที่รัฐ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 148 และมาตรา 150 ระบุว่าจะต้องมีการชันสูตรพลิกศพและมีการไต่สวนการตาย เพื่อสืบหาว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด เหตุและพฤติการณ์ที่ตาย และถ้าตายโดยการถูกทำร้ายให้กล่าวว่าใครเป็นผู้กระทำเท่าที่ทราบได้ โดยตำรวจจะต้องทำสำนวนให้อัยการ แล้วอัยการจึงทำการไต่สวนการตายต่อศาลในลำดับต่อไป
กระบวนการการสอบสวนทางกฎหมายการเสียชีวิตของบุ้งนั้นดำเนินไปอย่างล่าช้า โดยในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 หรือผ่านไปกว่า 6 เดือน อัยการจังหวัดธัญบุรีเป็นผู้ร้องให้มีการไต่สวนการเสียชีวิตของบุ้งหลังจากที่ได้มีการชันสูตรพลิกศพแล้ว จนกระทั่งศาลจังหวัดธัญบุรีได้มีการนัดไต่สวนในวันที่ 13 มกราคม 2568

ในการพิจารณาคดีวันที่ 13 มกราคม 2568 ทนายความและญาติของบุ้งได้ร้องขอให้มีการเลื่อนการไต่สวนออกไปเพื่อตรวจสอบพยานเอกสารเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังร้องขอให้ศาลเรียกพยานหลักฐานเพิ่มเติมอันได้แก่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รวมถึงรายงานการตรวจสอบสมองและปอดผู้ตาย (CT SCAN) ของวันที่ 14 พ.ค. 2567 ซึ่งหลักฐานสำคัญอย่างคลิปจากกล้องวงจรปิดนั้นทนายความก็ได้ระบุว่าต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งกว่าจะได้หลักฐานตัวนี้มาได้ อีกทั้งราชทัณฑ์ยังไม่ยินยอมให้มีการเปิดเผยต่อสาธารณะอีกด้วย

ท้ายที่สุด หลังจากที่ทนายได้หลักฐานเพิ่มเติมคือตัวของรายงานการรักษา คลิปจากกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงบาลธรรมศาสตร์ครบถ้วนแล้วนั้น ศาลจึงได้กำหนดวันนัดไต่สวนการตายเป็นวันที่ 20-21 สิงหาคม 2568 หรือเป็นเวลากว่า 1 ปี 3 เดือน หลังการเสียชีวิตของบุ้ง

หากลองเทียบกับกรณีดังที่เกิดขึ้นอย่างเคสของผู้กำกับโจ้ ที่เสียชีวิตในเรือนจำเช่นเดียวกับบุ้งนั้น เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเสียชีวิตได้ปรากฏคลิปจากกล้องวงจรปิดภายในเรือนจำเผยแพร่ต่อสาธารณะ มีการจำลองการเสียชีวิตโดยหลายหน่วยงานร่วมกันหลังจากผ่านไปเพียง 7 วัน และมีการแถลงการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริง ฯ หลังจากการเสียชีวิตไปเพียง 1 เดือนกว่า ๆ เท่านั้น 

สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงความล่าช้าในการกระบวนการยุติธรรมจากการเสียชีวิตของบุ้ง และชวนให้ตั้งคำถามว่าอะไรถึงนำไปสู่มาตรฐานที่แตกต่างกันของทั้งสองคดี ทั้ง ๆ ที่ก็เกิดเหตุภายใต้การดูแลของราชทัณฑ์เช่นเดียวกัน? 

การเสียชีวิตของบุ้งนอกจากข้อเรียกร้องอันแรงกล้าของเธอที่อยากจะให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ให้เพื่อน ๆ ร่วมอุดมการณ์ของเธอไม่ถูกคุมขังในเรือนจำอย่างไม่เป็นธรรมนั้น ยังได้เปิดเผยให้เห็นถึงปัญหาในหลาย ๆ มิติของราชทัณฑ์ ทั้งมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยในเรือนจำ การตั้งคำถามความโปร่งใสจากการดำเนินงานของเรือนจำ รวมถึงเรื่องที่เราควรผลักดันร่วมกันว่าไม่ควรมีใครต้องเสียชีวิตจากการคุมขังในเรือนจำอีก 

DRG ขอรำลึกถึงการต่อสู้ของบุ้ง เนติพร เรายืนยันว่าหากเธอเข้าถึงสิทธิในการประกันตัวตั้งแต่แรกสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ไม่มีใครต้องพิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรกับสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะถูกสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ในระหว่างพิจารณาคดี ท้ายที่สุด เราขอเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงรัฐบาล ดำเนินการสอบสวนการเสียชีวิตของบุ้งอย่างเร่งด่วน เพื่อนำความยุติธรรมมาให้กับบุ้งและต้องไม่มีใครต้องถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมโดยกระบวนการยุติธรรมอีก

https://www.bbc.com/thai/articles/c51nnjm2k00o
https://www.thaipbs.or.th/news/content/340127
https://plus.thairath.co.th/topic/politics&society/104726
https://thainews.prd.go.th/thainews/news/view/306946/?bid=1
https://www.thaipbs.or.th/news/content/350207
https://www.thaipbs.or.th/news/content/351349
https://tlhr2014.com/archives/69367
https://tlhr2014.com/archives/74632
https://tlhr2014.com/archives/72108
https://tlhr2014.com/archives/69570
https://drgth.co/a20052024/