19 กันยายน ครบรอบ 16 ปี การรัฐประหารโดย “คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” (คปค.) ยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลเลือกตั้งของทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2549

16 ปีผ่านไปไวกว่าที่คิด เป็น 16 ปีที่ฝ่ายต่างๆ ที่มีส่วนร่วมต่อการปล้นอำนาจประชาชนในวันนั้น ซึ่งคงคิดว่าการทำรัฐประหารจะนำความรุ่งโรจน์แห่งอำนาจวาสนามาสู่ตัวเอง กลับตกต่ำลงเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ตั้งแต่กองทัพที่เป็นกำลังหลักทางกายภาพในการยึดอำนาจ ที่ในปีงบประมาณถัดมาก็ได้รับค่าตอบแทนเป็นงบประมาณพุ่งทะลุหลักแสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 1 ใน 3 และเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงกว่า 2 แสนล้านบาทในปัจจุบัน แต่เงินที่ได้รับมากมายมหาศาลไม่ได้ช่วยให้กองทัพพ้นจากการเป็นที่ดูถูกดูแคลน จากความเน่าเฟะที่ปกปิดไม่มิด จนปรากฏออกมาเป็นกรณีอย่างการซ้อมทรมานพลทหารตายในค่าย ความหละหลวมและการทุจริตที่ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมกราดยิงใจกลางเมือง การมีทหารรับใช้ที่ถูกใช้งานเยี่ยงทาส หรือการล่วงละเมิดทางเพศที่ถูกเปิดโปงในช่วงที่ผ่านมา ตลอดไปจนถึงการซื้ออาวุธสุรุ่ยสุร่าย แต่กับเหตุหน่วยรบเพื่อนบ้านล่วงล้ำเขตแดนยังไม่สามารถมีท่าทีโต้ตอบได้อย่างสมน้ำเนื้อ กองทัพกลายเป็นที่น่าขบขันและน่าสมเพชในสายตาของประชาชนไปแล้ว

ต่อมาที่ศาลและผู้พิพากษาที่บิดเบือนกฎหมายภายใต้ชื่อปฏิบัติการ “ตุลาการภิวัตน์” ไล่ยุบพรรคการเมืองต่างๆ ที่แสดงศักยภาพว่าจะมาเทียบบารมีชนชั้นนำ ทั้งพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน มาจนถึงพรรคอนาคตใหม่ สกัดกั้นความพยายามของภาคประชาชนในการรื้อโครงสร้างที่ไม่เป็นประชาธิปไตยผ่านการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หรือแม้กระทั่งแปะป้ายการต่อสู้เรียกร้องอย่างสันติของราษฎรทั้งหลายว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ขังคุกผู้บริสุทธิ์ล่วงหน้าด้วยการสั่งไม่ให้ประกันตัว ทุกๆ วันที่ผู้พิพากษาและตุลาการเหล่านี้บิดเบือนกฎหมาย ก็เป็นทุกๆ วันที่กฎหมายของบ้านเมืองนี้เสื่อมราคาลง จนประชาชนเริ่มหมดความอดทนถึงขนาดต้องเอาชื่อของคนเหล่านี้มาประจานให้สังคมได้รับรู้

และไม่พูดถึงไม่ได้กับบทบาทของสถาบันกษัตริย์ในการสนับสนุนและรับรองการรัฐประหาร ซึ่งภายหลังจากนั้นมาก็ตามมาด้วยการใช้มาตรา 112 ที่พุ่งสูงขึ้นเป็นนับร้อยคดี ด้วยความลำพองของผู้มีอำนาจว่าสามารถโหนสถาบันกษัตริย์มาใช้ทำลายล้างผู้เห็นต่างได้อย่างไม่มีขีดจำกัด สารพัดคดีเพี้ยนๆ ไม่ว่าจะเป็นการเอาชราที่ส่ง SMS ไม่เป็นไปขังคุกจนตายทั้งที่ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์มัดตัว การไล่เอาผิดกับคนล้อเลียนสุนัขหรือคนแต่งชุดไทย ความบ้าคลั่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นส่งผลให้ในวันนี้สังคมไทยมองสถาบันกษัตริย์ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ภาพลักษณ์ที่สร้างขึ้นบนการกดขี่ค่อยๆ ถูกฉีกทิ้งจนไม่เหลือชิ้นดี

16 ปีที่ผ่านมาจะยังเป็นความหลังอันตราตรึงของผู้มีอำนาจหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ มันคือ 16 ปีแห่งความล้าหลังที่ถูกชิงชังจากประชาชนทั่วประเทศ ที่คงไม่มีใครอยากมีส่วนร่วมด้วยอีกแล้ว

https://www.sanook.com/news/8444670/
https://drgth.co/coup49invisiblehand/