อานนท์ นำภา ปราศรัยในการชุมนุม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย” 3 ส.ค. 63 (ภาพ: Voice TV)

3 สิงหาคม 2563 หรือวันนี้ของเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ท่ามกลางกระแสการชุมนุมประท้วงขนานใหญ่ของประชาชนเพื่อขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มมอกะเสดได้ร่วมกันจัดการชุมนุมขึ้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในชื่อกิจกรรม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย” โดยได้แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมชื่อดัง “แฮร์รี่ พอตเตอร์” เชิญชวนประชาชนมาร่วมกันแสดงพลังต่อต้าน “เจ้าแห่งศาสตร์มืด”

ในการชุมนุมครั้งนั้น อานนท์ นำภา ผู้ปราศรัยหลักของงาน ได้ขึ้นปราศรัยในหัวข้อ “สถาบันกษัตริย์กับการเมืองไทย” อันเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้ประเด็นปัญหาเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ไทยได้ถูกพูดถึงอีกนับครั้งไม่ถ้วนในอีกหลายๆ การชุมนุมหลังจากนั้น ส่วนข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ก็ได้กลายเป็น 1 ใน 3 ข้อเรียกร้องหลักของประชาชนผู้ชุมนุม (ร่วมกับข้อเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ลงจากตำแหน่ง และข้อเรียกร้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ)

สิ่งที่อานนท์พูด คือการแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ที่สถาบันกษัตริย์ได้ออกไปไกลห่างจากระบอบประชาธิปไตยมากขึ้นทุกทีๆ ทั้งโดยการจัดทำรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการในพระองค์ เปิดให้กษัตริย์ที่โดยหลักแล้วไม่พึงใช้อำนาจด้วยตัวเอง กลับมีหน่วยงานส่วนตัวที่สามารถใช้งานได้ตามอัธยาศัยโดยปราศจากการถ่วงดุล การแก้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ตามความประสงค์ของกษัตริย์เอง เพื่อให้สามารถเดินทางไปพำนักที่ต่างประเทศอย่างยาวนานได้โดยไม่ต้องตั้งผู้สำเร็จราชการแทน สุ่มเสี่ยงต่อการใช้อำนาจบนดินแดนของประเทศอื่น การออก พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โอนเอาทรัพย์สินเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ที่อยู่ในความดูแลของรัฐมาเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของกษัตริย์ทั้งหมด การออก พ.ร.ก.โอนกำลังทหารถึง 2 กรม ไปอยู่ใต้บังคับบัญชาเป็นกองกำลังส่วนตัวของกษัตริย์ การนำเงินงบประมาณปีละเกือบหมื่นล้านบาทไปส่งให้กับสถาบันกษัตริย์โดยขาดรายละเอียดการใช้จ่ายให้ตรวจสอบ การกระทำเหล่านี้ทำให้สถาบันกษัตริย์มีอำนาจล้นเกินกว่าที่ควรยอมรับได้ตามระบอบประชาธิปไตย และกลายเป็นเครื่องมือให้รัฐบาลและผู้มีอำนาจกลุ่มต่างๆ ใช้แสวงหาผลประโยชน์และใช้ทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามผู้เห็นต่างทางการเมือง

ซึ่งทางที่จะแก้ปัญหานี้ได้ มีแต่จะต้องแก้บรรดากฎหมายต่างๆ ที่ได้กล่าวมา เลือกผู้แทนราษฎรที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยและเห็นความสำคัญของปัญหาเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์เข้าไปทำหน้าที่ รวมถึงต้องนำประเด็นสถาบันกษัตริย์มาพูดคุยถกเถียงกันในที่สาธารณะให้ได้ ไม่ว่าจะบนท้องถนน ในสังคมออนไลน์ หรือในสภา

(อ่านคำปราศรัยในครั้งนั้นของอานนท์ ที่ DRG ถอดเทปไว้ ได้ที่
https://www.facebook.com/democracyrestoration/posts/2975069509289213

ดาวน์โหลดคำปราศรัยได้ที่
https://drive.google.com/file/d/1atW43Wfo9KL3ISsANfBS_uGqE8P8Ju4V/)

การปราศรัยเรียกร้องเช่นนี้ เป็นเรื่องปรกติที่พึงกระทำได้ในราชอาณาจักรใดๆ ที่เป็นประชาธิปไตย แต่ในประเทศไทย สิ่งที่เกิดขึ้นคือผู้ปราศรัยอย่างอานนท์ถูกตำรวจตั้งข้อหามาตรา 116 ส่วนผู้จัดงานคนอื่นๆ อีก 6 คน ซึ่งรวมถึงชลธิชา แจ้งเร็ว (ลูกเกด), ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล (มายด์), ธัชพงศ์ แกดำ (บอย) ถูกตั้งข้อหาตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และ พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง ต่อมาหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ ที่เคยอ้างว่ากษัตริย์วชิราลงกรณ์มีดำริไม่ให้ใช้มาตรา 112 ประกาศว่าจะใช้กฎหมายทุกฉบับดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมอีกครั้ง ก็มีการตั้งข้อหามาตรา 112 กับอานนท์เพิ่มด้วยอีกความผิดหนึ่ง

หลังจากนั้นมา อานนท์เคยต้องถูกคุมขังในเรือนจำ โดยเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 ศาลเคยมีคำสั่งถอนประกันอานนท์พร้อมกับภาณุพงศ์ จาดนอก ในคดีชุมนุม 18 กรกฎา ก่อนที่จะได้ปล่อยตัวในอีก 4 วันถัดมา ต่อมาวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 อานนท์ถูกอัยการสั่งฟ้องในคดีชุมนุม “19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร” พร้อมกับจำเลยอีก 3 คน (พริษฐ์, สมยศ และปติวัฒน์) โดยศาลประทับรับฟ้องและไม่ให้ประกันตัว อ้างว่าอาจไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับที่ถูกกล่าวหาอีก ส่งผลให้อานนท์ถูกคุมขังจนถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2564 เป็นระยะเวลาเกือบ 4 เดือน ซึ่งระหว่างนั้นอานนท์ได้ติดโรค COVID-19 จากในเรือนจำด้วย

ต่อมาวันที่ 3 สิงหาคม 2564 DRG, คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) และกลุ่มศาลายาเพื่อประชาธิปไตย จัดกิจกรรมครบรอบ 1 ปี “เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย” ที่ลานหน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ โดยอานนท์ได้ขึ้นปราศรัยในประเด็นสถาบันกษัตริย์อีกครั้ง ทบทวนสถานการณ์ 1 ปีที่ผ่านมา ที่แม้ประเด็นสถาบันกษัตริย์จะถูกพูดถึงในวาระต่างๆ อย่างเป็นวงกว้าง แต่ก็ยังไม่ได้รับการใส่ใจจากผู้มีอำนาจ ทั้งยังมีการตอบโต้ผู้แสดงความคิดเห็นด้วยการใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือปราบปรามอย่างหนัก นอกจากนี้ยังยืนยันถึงความสำคัญของข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ที่ต้องผลักดันไปพร้อมๆ กันกับข้อเรียกร้องอื่นๆ โดยใช้หลักสันติวิธีซึ่งหมายถึงการไม่ทำร้ายใคร

อานนท์ นำภา ปราศรัยในการชุมนุม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย” 3 ส.ค. 64 (ภาพ: The 101 World)

การปราศรัยดังกล่าวส่งผลให้อานนท์ถูกแจ้งความกล่าวหาว่าผิดมาตรา 112 โดยนพดล พรหมภาสิต จากศูนย์ช่วยเหลือทางกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิดทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) และออกหมายจับเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ซึ่งอานนท์ได้เข้าไปมอบตัวด้วยตัวเอง ต่อมาวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ศาลมีคำสั่งฝากขังและไม่ให้ประกันตัวในอีกหลายครั้งถัดมา ทำให้อานนท์ต้องถูกคุมขังอีกครั้งจนกระทั่งได้ประกันตัวออกมาเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นระยะเวลาเกือบ 7 เดือน ในขณะที่ผู้ปราศรัยและผู้จัดการชุมนุมคนอื่นๆ อีกรวม 22 คน ก็ถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ล่าสุดในการนัดฟ้องคดีเมื่อวานนี้ (2 สิงหาคม 2565) มีรายงานว่าจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก โดยนัดอีกครั้งวันที่ 2 กันยายน 2565

ปัจจุบันคดีทั้งหมดเกี่ยวกับการชุมนุม “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ทั้ง 2 ครั้ง ยังอยู่ในชั้นการพิจารณาของอัยการหรือศาลชั้นต้น ในขณะที่การใช้อำนาจที่ล้นเกิน ทำตัวห่างไกลจากระบอบประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ ของสถาบันกษัตริย์ก็ได้ปรากฏให้เห็นเพิ่มขึ้น ตัวอย่างรูปธรรม เช่น การออกคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการในพระองค์และพระสงฆ์ต่างๆ โดยไม่มีผู้รับสนองราชโองการ การปิดพื้นที่ลานพระราชวังดุสิตไม่ให้สาธารณชนเข้าใช้ประโยชน์ พร้อมทั้งสร้างรั้วกั้น การจัดหาเครื่องบินสำหรับการเดินทางในต่างประเทศของสมาชิกราชวงศ์ และการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอื่นๆ

https://freedom.ilaw.or.th/case/929
https://freedom.ilaw.or.th/case/945
https://www.bbc.com/thai/thailand-54057461
https://www.bbc.com/thai/thailand-57312012
https://web.facebook.com/iLawClub/posts/10165724010760551
https://prachatai.com/journal/2021/08/94277
https://tlhr2014.com/archives/33255
https://tlhr2014.com/archives/33356
https://www.bbc.com/thai/thailand-60479294
https://prachatai.com/journal/2022/05/98797
https://prachatai.com/journal/2022/08/99830
https://prachatai.com/journal/2022/05/98413
https://web.facebook.com/saiseema.p/posts/3125054647810041
https://web.facebook.com/saiseema.p/posts/3167855866863252
https://web.facebook.com/saiseema.p/posts/3167140710268101