ผลการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเช้าวันนี้ (4 กันยายน 2564) อย่างที่ได้ทราบกันแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล รวม 6 คน ได้รับเสียงโหวตจาก ส.ส. ให้ดำรงตำแหน่งต่อไป แม้ว่ารัฐบาลชุดนี้จะประสบความล้มเหลวอย่างชัดแจ้งที่สุดในการแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือความล้มเหลวในการควบคุมการระบาดของโรค COVID-19 จากการบริหารจัดการวัคซีนโดยคิดถึงผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองเหนือสวัสดิภาพของประชาชน ไม่ยอมจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเพียงพอมาให้กับคนไทย ทั้งยังปล่อยปละละเลยให้เกิดคลัสเตอร์การระบาดที่เกิดจากหน่วยงานรัฐหลายครั้งหลายหน จนถึงวันนี้มีผู้ที่ต้องเสียชีวิตจากโรคร้ายไปแล้วอย่างน้อย 12,631 คน

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ
รายงานสถานการณ์ COVID-19 ถึงวันที่ 4 กันยายน 2564 มีผู้เสียชีวิตสะสม 12,631 คน (ที่มา: ไทยรู้สู้โควิด)

เหตุที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่ลอยหน้าลอยตาท่ามกลางความอัปยศที่ทิ้งไว้ให้กับประเทศนี้ได้ ก็เพราะในขณะเดียวกันกับที่ทำตัวเลขคนป่วยและคนตายพุ่งสูงไม่เว้นวันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็คือคนที่ยกระดับอำนาจของสถาบันกษัตริย์ โดยเฉพาะกษัตริย์คนปัจจุบันคือวชิราลงกรณ์ ให้สูงขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎหมายให้มีส่วนราชการในพระองค์ ซึ่งเป็นดั่งกองทัพส่วนตัวของวชิราลงกรณ์ การโอนเอาทรัพย์สินที่ควรไปของประเทศไปเป็นสมบัติส่วนตัวของวชิราลงกรณ์แต่เพียงผู้เดียว การผ่านงบประมาณจากภาษีประชาชนไปเลี้ยงวชิราลงกรณ์และพวก การปล่อยให้วชิราลงกรณ์พาคนของตัวเองไปเสวยสุขอยู่ต่างประเทศนานแรมเดือนแรมปี หรือแม้กระทั่งมีประชาชนออกมาตั้งคำถาม ออกมาวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์อย่างตรงไปตรงมา พล.อ.ประยุทธ์ก็อาสาช่วยเอากำลังเจ้าหน้าที่ออกมาไล่ล่าทุบตีประชาชนเหล่านั้นอย่างไร้ความปรานี

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่มีกระแสความพยายามรวมเสียง ส.ส. เพื่อโหวตถอดถอน พล.อ.ประยุทธ์ ตัว พล.อ.ประยุทธ์เองยังกล้าประกาศกร้าวออกมาว่า “การแอบอ้างเบื้องสูงถือว่าผิดอย่างร้ายแรง ผมคนเดียวเท่านั้นที่ได้มีโอกาสถวายข้อราชการ คนอื่นไม่มี” อวดอ้างสายสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับวชิราลงกรณ์มาเป็นเครื่องยืนยันว่าไม่มีวันที่ตนจะถูกถอดถอนจากตำแหน่งได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ (ที่มา: บีบีซีไทย)

ดังนั้นแล้วแม้ในครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะได้รับเสียงโหวตไม่ไว้วางใจเป็นจำนวนมากกว่ารัฐมนตรีคนอื่นๆ (ที่ 208 เสียง) และได้รับเสียงโหวตไว้วางใจน้อยเป็นอันดับที่ 2 (264 เสียง รองจากสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน) แต่นั่นก็เป็นเพียงการจัดวางตัวเลขเพื่อแสดงความไม่พอใจบางอย่างจาก ส.ส. ในพรรครัฐบาลเท่านั้น ตราบใดที่วชิราลงกรณ์ยังไว้ใจ พล.อ.ประยุทธ์เป็นมือเป็นไม้ของตัวเองต่อไป ส.ส. พวกนี้ก็ไม่มีกระดูกสันหลังพอที่จะทำอะไรมากไปกว่านี้

ผลการลงมติไม่ไว้วางใจ 4 กันยายน 2564 (ที่มา: WorkpointTODAY)

เพราะฉะนั้นแล้ว หากเรายังไม่อาจลดอำนาจของวชิราลงกรณ์และสถาบันกษัตริย์ให้จำกัดอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ตามระบอบประชาธิปไตยของสากลโลก ประเทศไทยก็ยังต้องแบกรับเวรกรรมที่ชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อไป

https://www.facebook.com/thaimoph/posts/395129732096936
https://www.facebook.com/BBCnewsThai/posts/3021336334754053
https://www.facebook.com/workpointTODAY/posts/1700792180290053