ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า #ม็อบ11กันยา เมื่อคืนวันที่ 11 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา มีผู้ถูกจับกุมเป็นจำนวนอย่างน้อย 78 คน
โดยกลุ่มที่ถูกนำตัวมาที่ สน.ดอนเมือง ปรากฏว่ามีผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมจริงๆ แค่ 4 คนเท่านั้น ที่เหลือเป็นเพียงคนขับรถขนส่งสาธารณะและผู้ค้าขายในบริเวณที่ชุมนุมเท่านั้น
โดยในบรรดาผู้ที่ถูกตำรวจมั่วจับมาด้วย มีหญิง 2 คนที่ถูกจับเพียงเพราะไปรอรับแจกอาหารในสถานการณ์ COVID-19 ถูกจับมาพร้อมกับลูกอายุเพียง 3 และ 4 เท่านั้น รวมอยู่ด้วย
DRG เห็นว่าการชุมนุมทางการเมืองเป็นเสรีภาพที่ประชาชนพึงกระทำได้ แม้ผู้ใดตั้งใจมาชุมนุม ตำรวจก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะไปจับพวกเขา
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเลวร้ายยิ่งไปกว่านั้น เพราะแม้กระทั่งผู้ที่ไม่ได้ตั้งใจมาชุมนุม เพียงแค่ใช้ชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ ก็พลอยเป็นเหยื่อของการใช้อำนาจแบบมั่วๆ ของตำรวจไปด้วยนับสิบคน
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ต่างอะไรกับที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่บ้านเรือนจนเสียหาย ไม่ต่างอะไรกับที่รัวกระสุนยางใส่คนที่เขาไม่ได้มุ่งเข้ามาทำร้าย เจ้าหน้าที่รัฐสักแต่จะใช้อำนาจ สักแต่จะใช้กำลัง สักแต่จะใช้อาวุธ โดยไม่แยกแยะ ไม่คิดรับผิดชอบต่อผู้ที่ต้องถูกลูกหลงไปด้วยแม้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย กล้าทำร้ายคนอื่นขนาดนี้เพียงเพื่อปกป้องสถานะของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และสถาบันกษัตริย์ ให้อยู่อย่างผิดที่ผิดทาง เป็นชนวนความขัดแย้งในสังคมไทยต่อไป เพราะเชื่อว่าผู้มีอำนาจพวกนี้จะคอยคุ้มกะลาหัวให้
และนี่ขนาดว่าเป็นเพียงการรับคำสั่งให้จับและสลายการชุมนุมเท่านั้น เจ้าหน้าที่รัฐยังใช้อำนาจแบบมั่วๆ จนคนอื่นๆ ต้องเดือดร้อนมากมายขนาดนี้ ลองคิดดูว่าถ้าวันหนึ่งได้รับคำสั่งให้ “ฆ่า” ขึ้นมา จะมีกี่ศพที่ต้องสังเวยให้กับความไร้สติสัมปชัญญะของคนพวกนี้ อย่าปล่อยให้มันเกิดขึ้นได้เลย
https://twitter.com/TLHR2014/status/1436912781060554755
https://www.facebook.com/lawyercenter2014/posts/4273752152674606
