ตามที่ในวันนี้ (18 พฤศจิกายน 2565) ตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งรวมถึงกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนได้เข้าสลายการชุมนุมกลุ่มราษฎรหยุดเอเปค 2022 ที่บริเวณลานคนเมืองและถนนดินสอ ขณะกำลังเคลื่อนขบวนเดินทางไปยังศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สถานที่จัดประชุมผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิค (APEC) เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยกเลิกนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ที่เบื้องหลังเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนและซ้ำเติมผลกระทบต่อประชาชน รวมถึงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ยุบสภาและเปิดให้มีการเลือกตั้งพร้อมกับจัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชน

โดยในการสลายการชุมนุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ้างถึง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ซึ่งมีการออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีกำหนดให้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เป็นสถานที่ตามความในมาตรา 8 ของ พ.ร.บ. ดังกล่าว ที่ซึ่งการชุมนุมจะต้องไม่กีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานที่ รวมถึงออกคำสั่งเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ไม่อนุญาตให้มีการเดินขบวนออกจากลานคนเมืองไปยังศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อ้างว่าเป็นไปเพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุมและภาพลักษณ์ของประเทศไทย 

อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะไม่ได้กำหนดห้ามผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนเข้าใกล้สถานที่จัดการประชุม ตราบเท่าที่ไม่เป็นการกีดขวางการเข้าออกหรือทำให้การประชุมดำเนินต่อไม่ได้ ซึ่งในข้อเท็จจริงนั้นกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีศักยภาพเพียงพอที่จะอำนวยการให้ผู้ชุมนุมเดินขบวนไปยังบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่จัดการประชุมได้โดยกระทบต่อการจราจรให้น้อยที่สุดและไม่กระทบต่อการประชุมที่กำลังดำเนินอยู่ ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นการสลายการชุมนุมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยปราศจากคำสั่งของศาล ณ บริเวณที่เริ่มต้นเคลื่อนขบวนซึ่งอยู่ห่างจากสถานที่จัดการประชุมหลายกิโลเมตร ยังไม่ปรากฏเหตุว่าจะมีการกีดขวางทางเข้าออกสถานที่จัดการประชุมหรือทำให้การประชุมดำเนินต่อไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย การใช้ปืนกระสุนยางยิงใส่ร่างกายส่วนบนของผู้ชุมนุมในระยะประชิดโดยปราศจากการแจ้งเตือนล่วงหน้าว่าจะใช้อาวุธดังกล่าวจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตา การทำร้ายสื่อมวลชนที่สวมปลอกแขนแสดงตนและแจ้งสถานะของตัวเองอย่างชัดแจ้งแล้ว การนำตู้คอนเทนเนอร์มาตั้งกีดขวางทางสัญจร และการจับกุมตัวผู้ชุมนุมไปเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 25 คน

กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยขอประณามปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้บังคับบัญชาของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แสดงให้เห็นแล้วว่าเบื้องหลังคำขวัญสวยหรู “Open. Connect. Balance.” ของการจัดประชุม APEC 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เบื้องหลังคำโกหกออกสื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ว่าจะต้องรับฟังเสียงของเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ ธาตุแท้กลับเป็นละครฉากหนึ่งของเผด็จการที่มีปมด้อย กระหายอยากได้รับการยอมรับจากนานาชาติถึงขนาดหมกเม็ดความชั่วช้าที่ตัวเองได้กระทำไว้ด้วยการกระทำความชั่วช้าอีกกรรมหนึ่งนั่นคือปิดปากประชาชนผู้ออกมาส่งเสียงแสดงความเดือดร้อนของพวกเขา ไม่ต่างจากที่เอาป้ายผ้าไปขึงเพื่อบังตู้คอนเทนเนอร์ที่ตั้งขวางผู้ชุมนุมไว้ นั่นคือการจัดฉากสวยงามมาปกปิดความจริงอันน่าอัปลักษณ์ เมื่อได้เห็นพฤติกรรมเช่นนี้จากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์แล้วคงน่าเชื่อได้อย่างที่กลุ่มราษฎรหยุดเอเปค 2022 กล่าวไว้จริงๆ ว่าการประชุม APEC 2022 ครั้งนี้คงเป็นได้เพียงเวทีของการกอบโกยผลประโยชน์ที่ควรเป็นของประชาชนชาวไทยทุกคนอย่างเท่าเทียมกันไปประเคนให้กับนายทุนเท่านั้น

นอกจากนี้ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยขอเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมตัวทุกคนออกมาโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงไม่ใช้กำลังอาวุธสลายการชุมนุมของประชาชนที่รวมตัวเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุม ณ สถานที่ควบคุมตัวอีก อย่าให้สถานการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ด้วยน้ำมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง

กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (Democracy Restoration Group – DRG)
18 พฤศจิกายน 2565