“คนนี้ไปยืนถือป้าย คนนี้ไปยืนชูป้ายท่ามกลางผู้ประท้วง ขอบคุณมากๆ เราจำได้ ขอบคุณมากๆ เป็นกำลังใจให้ ขอบคุณมากๆ”
“ใช่ไหม คนนี้”
“ใช่ คนเดียวถือป้าย”
“กล้ามากๆ เก่งมาก ขอบใจ”
“ทรงพระเจริญครับ รักในหลวงมากๆ ทรงพระเจริญ”
“ขอบใจมาก ขอบใจ”
“อูย เป็นบุญของผมมากๆ ครับ ทรงพระเจริญ หาที่สุดไม่ได้”
“ขอบคุณนะคะ เราก็ภูมิใจที่คุณทำมาก ขอบคุณมาก”
“กล้ามาก ขอบใจมาก”
![](https://drgth.co/wp-content/uploads/2021/10/image-1-1024x576.png)
23 ตุลาคม 2563 วันนี้ของเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ระหว่างเดินทางกลับจากการทำบุญในโอกาสครบรอบวันเสียชีวิตของกษัตริย์จุฬาลงกรณ์ รัชกาลที่ 5 วชิราลงกรณ์ รัชกาลที่ 10 กษัตริย์คนปัจจุบัน พร้อมด้วยสุทิดา ภรรยาเอกคนปัจจุบัน ได้เข้าพบปะกลุ่มคนผู้ยึดถืออุดมการณ์กษัตริย์นิยมที่มาเฝ้ารอระหว่างทาง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกๆ ที่มีการเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงใกล้ชิดกษัตริย์คนนี้ได้ ราวกับต้องการแสดงให้เห็นถึงความเป็นกันเอง
ในเหตุการณ์นี้เองที่วชิราลงกรณ์และสุทิดาได้กล่าวชื่นชมชายคนหนึ่งว่ากล้ามาก เก่งมาก และขอบใจในการกระทำของเขา ดังบทสนทนาที่เขียนไว้ข้างต้น
ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า “ฐิติวัฒน์” โดยวีรกรรมที่นำมาซึ่งคำชมจากกษัตริย์และราชินี ได้แก่การที่เขาไปยืนถือรูปของอดีตกษัตริย์ภูมิพล รัชกาลที่ 9 และอดีตราชินีสิริกิติ์ บนถนนปิ่นเกล้า เพียงหนึ่งเดียวท่ามกลางขบวนผู้ชุมนุมเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
ในครั้งนั้น ฐิติวัฒน์ให้สัมภาษณ์สื่อว่า “ฝากถึงผู้ปกครองที่ดูแลน้องๆ เขาอยู่ ให้ช่วยดูแลบุตรหลานด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้มาทำแบบนี้”
แสดงให้เห็นถึงทัศนคติคัดค้านการชุมนุมประท้วงเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และเห็นว่าผู้ปกครองต้องห้ามมิให้เยาวชนในความดูแลของตนออกมากระทำการเช่นนี้ ทั้งที่นี่คือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและแสดงออกทางการเมืองที่บุคคลแต่ละคนพึงมีพึงกระทำโดยมิต้องอยู่ใต้อาณัติของใคร
และในอีกเกือบ 1 ปีหลังได้รับคำชม เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2564 มีรายงานกรณีของ “ประสงค์” ที่ถูกจับกุมตัวในข้อหามาตรา 112 จากการแชร์ข้อความบนเฟซบุ๊ค และต่อมาถูกศาลสั่งฝากขังและไม่ให้ประกันตัวทั้งที่ไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนีหรือยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม อีกทั้งในขณะนั้นมีรายงานผู้ติดเชื้อ COVID-19 เป็นจำนวนมาก แต่สุดท้ายประสงค์ก็ยังถูกขังอยู่ในพื้นที่เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 กว่าจะได้ปล่อยตัวก็เมื่อตอนยื่นขอประกันตัวครั้งที่ 4 รวมระยะเวลาที่ถูกขังถึง 27 วัน
ซึ่งปรากฏว่าบุคคลที่เป็นผู้แจ้งความมาตรา 112 ต่อประสงค์จนถูกจับขังนานเกือบเดือนนั้น ก็คือฐิติวัฒน์ ผู้ได้รับคำชมจากกษัตริย์และราชินีนั่นเอง
การแสดงออกผ่านสื่อของวชิราลงกรณ์และสุทิดาถึงความใกล้ชิดกับประชาชน (ที่เข้าข้างตัวเอง) เมื่อ 1 ปีก่อน ด้วยกล่าวชื่นชมฐิติวัฒน์ ผู้ซึ่งแสดงทัศนคติต่อต้านการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ย่อมทำให้เห็นว่าการจะปฏิรูปตัวเองนั้นมีอยู่ในความนึกคิดของทั้งสองคนนี้บ้างหรือไม่? มากน้อยแค่ไหน? และนั่นคงเป็นเหตุที่ทำให้ในคืนเดียวกันนั้นในโลกทวิตเตอร์พร้อมใจกันติด hashtag #23ตุลาวันตาสว่าง
ส่วนการที่ฐิติวัฒน์กลายมาเป็นผู้ใช้มาตรา 112 เล่นงานผู้เห็นต่างทางการเมืองในเวลาต่อมานั้น ก็น่าคิดว่าส่วนหนึ่งเพราะได้รับขวัญกำลังใจจากผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “พระเจ้าอยู่หัว” ของเขา จนคิดว่าที่ทำลงไปนั้นถูกต้องแล้ว อย่างนั้นหรือไม่?
https://www.bbc.com/thai/thailand-54671840
https://www.nationtv.tv/news/378802020
https://prachatai.com/journal/2021/07/93894
https://prachatai.com/journal/2021/07/93947
https://prachatai.com/journal/2021/08/94311
https://prachatai.com/journal/2020/10/90111